วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

บทความ4

ขายกิ๊ฟช็อป  สร้างรายได้เสริมที่ไม่ควรมองข้าม


      นภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ต่างคนต่างต้องดิ้นรนทำมาหากินกัน เพื่อที่จะประคับประครองชีวิตให้อยู่รอด หรือ อยากจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีอาชีพอะไรล่ะ ที่จะทำให้เราสามารถสร้างรายได้เสริม เพิ่มเติมจากรายได้ประจำที่มีอยู่ได้ หรือสร้างเป็นธุรกิจส่วนตัวได้เลยแบบง่ายๆ
       
       อาชีพขายกิ๊ฟช็อปก็ไม่เลวเหมือนกัน สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ทีเดียวโดยอาจใช้เวลาว่างวันเสาร์-อาทิย์ หรือ เวลาเลิกงาน หรือเวลาเลิกเรียน สำหรับคนที่ทำเป็นอาชีพเสริมเงินลงทุนในการขายก็ไม่มาก ประมาณ 3,000-4,000 บาท ก็สามารถขายกิ๊ฟช็อปได้เลยอุปกรณ์ตั้งแผง เช่น แผงต่างหู ขาตั้งโต๊ะ ตะขอแขวน ร่ม ผ้าปูโต๊ะ ซึ่งอุปกรณ์ก็ราคาไม่แพง
       
      สินค้ากิ๊ฟช็อปที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น กิ๊ฟติดผม ที่คาดผม ที่หนีบผม ผ้าคาดผม ซึ่งแฟชั่นจะมีมาใหม่เรื่อยๆ ตามกระแสแฟชั่น ปัจจุบัน กระแสแฟชั่นเกาหลี กำลังเป็นที่นิยมมากเครื่องประดับต่างๆ เช่น สร้อยคอ สร้อมข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู กระเป๋า

       สำหรับการตั้งราคาสินค้านั้นให้บวกเข้้าไปมากกว่า 50% เนื่องจากต้องมีค่าใช่จ่ายอย่างอื่น เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่ ค่ากิน ค่าใช้จ่่ายอย่างอื่นและควรมั่นสำรวจตลาดว่าสินค้าไหนขายดี สินค้าไหนกำลังเป็นที่นิยม เพื่อให้ไม่ตกกระแสความนิยม

      สำหรับใครต้องการสร้างรายได้เสริม ขายกิ๊ฟช็อปก็น่าสนใจไม่น้อยนะคะ

บทความ3

เทคนิคการจัดตกแต่งร้าน ขายกิ๊ฟช็อปสวยๆ ให้ขายดิบขายดี




วันนี้มีเทคนิคในการจัดตกแต่งร้านขายกิ๊ฟช็อป เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านเรามากที่สุด การตกแต่งร้านกิ๊ฟช็อป จัดร้านให้สวยโดดเด่น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านเรา

ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการตกแต่งร้านขายกิ๊ฟช็อป มีดังนี้

1.แสงสว่างภายในร้านกิ๊ฟช็อป  ร้านกิ๊ฟช็อปควรมีแสงสว่างที่เพียงพอ ไม่มืดจนเกินไป แสงสว่างจากธรรมชาติบางทีก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ อาจเพิ่มแสงสว่างโดยการใช้แสงไฟฟ้า ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นการจูงใจลูกค้าได้ดีกว่า มุมมืดๆ โดยเฉพาะสินค้ากิ๊ฟช็อปตัวไหนที่โดดเด่น อาจเพิ่มไฟสปอร์ตไลน์เพิ่มความน่าสนใจ หรืออาจมีไฟกระพริบระยิบระยับ เป็นการเรียกลูกค้าได้ดีเลยที่เดียว

 2.การจัดหมวดหมู่สินค้ากิ๊ฟช็อป  การจัดวางสินค้ากิ๊ฟช็อปก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเรียกลูกค้าได้เช่นเดียวกัน การจัดวางสินค้ากิ๊ฟช็อปควรมีการจัดวางเป็นหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อการเลือกชมของลูกค้า อาจแยกออกเป็นหมวดหมู่กิ๊ฟช็อป เช่น

หมวด เครื่องประดับ อาจจะมี สร้อยอคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ กำไล กิ๊ฟติดผม ที่คาดผม ที่หนีบผม

หมวด กระเป๋า กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่เครื่องสำอางค์ กระเป๋าใส่เหรียญ เป็นต้น

หมวด ของใช้กระจุกกระจก

หมวด ของวัญ   หมวด ตุ๊กตา

การจัดวางสินค้า เช่น ต่างหู ควรหาตะขอแขวนสำหรับวางต่างหู ถ้าเป็นแบบหมุนได้ยิ่งดี ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถให้ลูกค้าหมุนหาสินค้าได้ เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า

 3.การติดป้ายบอกประเภทสินค้ากิ๊ฟช็อป เพื่อให้รู้ว่าสินค้ากิ๊ฟช็อปประเภทไหนอยู่ที่ไหน ซึ่งอาจจะหาป้ายมาติดไว้ที่กึ่งกางห้อง ข้างผนังห้อง หรือที่ชั้นวางของ เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้ากิ๊ฟช็อปชนิดไหนอยู่ที่ไหน และไม่ควรเปลี่ยนตำแหน่งการวางสินค้าบ่อย จะทำให้ลูกค้าสับสน หาสินค้าไม่เจอได้

 4.ติดป้ายบอกราคาสินค้ากิ๊ฟช็อป สินค้ากิ๊ฟช็อปควรจะมีราคาติดไว้ ให้ลูกค้าได้ดู เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าได้ ถ้าหากไม่ติดราคาสินค้า ก็ต้องมาคอยตอบราคาสินค้า ก็คงไม่ดีนัก

 5.การจัดวางสินค้ากิ๊ฟช็อป เพื่อเป็นการจูงใจลูกค้า ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

-ความพึงพอใจของลูกค้า

-ความเป็นระเบียบ

-ความสวยงาม

-จัดสินค้าให้เต็มอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ว่าง

-สินค้ามาก่อนต้องขายก่อน ควรว่างสินค้าที่มาก่อนอยู่แถวหน้า ทำให้สดใส เหมือนใหม่ตลอด

 และนอกจากการตกแต่งร้านแล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายอาจจะมีการจัดโปรโมรชั่น ลด แลก แจก แถม


บทความ2

เครื่องประดับกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน สวยเริดเฉิดยิ่งค่ะ



การแต่งตัวไม่ว่าจะออกงานน้อยใหญ่ขนาดใหญ่ ร่วมสังสรรค์กับเพื่อนฝูง คุณจำเป็นต้องแต่งกายให้เข้ากับงาน ดูดี มีสไตล์ และที่ขาดไม่ได้ คือ เครื่องประดับ ที่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่น สวยสะดุดตาใครต่อใครได้ เริ่มจากทรงผม การทำผมให้เหมาะกับใบหน้า เสริมด้วย ต่างหู สร้อยคอ เข็มขัด จะช่วยทำให้คุณดูดีขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ

โดยเฉพาะหญิงที่ออกเดตกับชายหนุ่มแล้วล่ะก็ ไม่สวยไม่ได้เลยค่ะ ฉันต้องสวยที่สุด ไม่งั้นหนุ่มไม่ปลื้มค่ะ เริ่มตั้งแต่ทรงผมค่ะ บางคนอาจหากิ๊บติดผมสวยๆ เพิ่มความน่ารัก หรือที่คาดผมสีหวานๆ สำหรับสาวหวาน หรือ ผ้าคาดผมที่ปัจจุบันกำลังฮิตกันค่ะ เครื่องประดับผมเหล่านี้ต้องมั่นอัพเดทตามแฟชั่นนะคะ บางตัวมาเร็วไปเร็วมากค่ะ สำหรับสาวไหนที่ชอบแต่งตัวตามแฟชั่นแล้วล่ะก็ หมั่นดูเทร์นแฟชั่นด้วยนะคะ

สำหรับผู้หญิงแล้ว เรื่องความสวยความงามต้องมาก่อนค่ะ เริ่มจากสวยภายใน โดยดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ผิวพรรณสวยใส เปล่งปลั่ง
เสริมความสวยภายนอกด้วย เครื่องประดับ เช่น กิ๊บติดผมสวยๆเก๋ ที่คาดผมหวานๆ ผ้าคาดผม ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ 
เพียงแค่นี้ก็สวยทั้งภายนอกและภายในแล้วค่ะ

ส่วนเครื่องประดับจะเลือกแบบไหนแนวไหนนั้น แล้วแต่ความชอบมากกว่าค่ะ เราใส่แล้วเรามั่นใจ ความมั่นใจในตัวเองนี้แหละที่ทำให้เราสวยได้แบบธรรมชาติ แต่งเกินไปก็ไม่งาม ไม่แต่งเลยก็ไม่สวย เอาแบบพอดีและเรามั่นใจก็พอแล้วค่ะ

แหล่งช็อปเครื่องประดับ มีมากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด เกรดดีหน่อยก็ตามห้างราคาก็จะสูงขึ้นหน่อย แหล่งขายส่งกิ๊ฟช็อปสำเพ็ง ก็มีสินค้ากิ๊ฟช็อป เครื่องประดับผมให้เลือกมากมาย ตามกระแสแฟชั่นค่ะ

ลองไปช็อปกันได้ค่ะ สาวๆคนไหนที่อยากสวย ก็ยอมลงทุนกันหน่อยนะคะ แต่งเสริมเติมแต่งบ้างค่ะ ชีวิตจะได้มีรสชาติค่ะ

บทความ1

เอาใจช่วย ขอแชร์ประสบการณ์




1. ขายวันแรกแล้วได้กำไร มันเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีโอกาส ครับ คุณต้องมองอย่างน้อย 7วัน ถึง หนึ่งเดือน ต่อตลาด  นั่นหมายความว่า คุณต้องมีสายป่าน ที่ยาวพอ ครับที่จะยืนดูตลาดได้ไหม มีทุนสำรอง ที่จะจ่ายไหม

ผมก็ขายกิฟท์ชอปมาก่อนครับ คล้ายๆคุณ เริ่มลงทุนครั้งแรก หลักพัน ไปเดินสำเพ็ง แต่ตี 3 ตี4  ซื้อของมาแพ็ค ไปนั่งแก่วขาย ทั้งวัน  วันแรกคุณขายได้ 210 บาท เยอะแล้วครับ  เชื่อไหมครับ วันแรกผมขายได้ 80 บาท  แต่โชคดี ที่ผมลองขายแบบ ตลาดนัดเล้กๆ ค่าแผงวันละ 40 บาท ค่าไฟอีก 20 บาท  หักทุนแล้วติดลบ อยุ่แล้วครับ ยังไม่รวม ค่ากิน ค่าแรง  แต่พอขายไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจะมีคนรู้จักบ้าง  ถ้าสินค้าเราไม่ได้แพงเกินไป  ก็จะอยุ่ได้เองครับ  จนผมมองว่า ตลาดนี้ มันเริ่มที่น่าจะไปได้สวย

ผมเลยลงทุนไปกู้ ธนาคาร ทำสินเชื่อเงินสดมา สองหมื่น   เอาไปซื้อของ ซื้อเต้นท์ (สุดท้ายขายต่อไปในราคาขาดทุนยับ) ไปเช่า ในตลาดที่ใหญ่ขึ้น แพงขึ้น ค่าแผงวันละ 250 ค่าไฟ เบ็ดเสร็จ 70  รวมวันละ 320 ที่ต้องจ่าย วันแรก โชคดี ขายได้ 800 กว่าบาท ก็พออยุ่ได้ครับ  แต่วันหลังๆก็เงียบบ้าง อะไรบ้าง   สุดท้ายอยุ่ไปสองเดือน หักแล้ว ขาดทุนไป 8000 กว่าบาทครับ  ก็ท้อเหมือนกัน ผมก็ไปหาที่ใหม่ เป็นตลาดมีสองรอบ  รอบบ่าย ขาย บ่ายสอง ถึง ห้าทุ่ม  ค่าแผงวันละ 100 ค่าไฟอีก 30  เช่าเตนท์อีก 50 บาท  รวมรอบนี้ จ่ายไปวันละ 180 บาท   บางวันได้ 300 หักแล้วไม่เหลืออะไร   บางวันได้ 3-400 บางวันได้ 7-800 ครับ  โดยเฉลี่ย เดือนนึงได้ 3000 กว่าบาท เท่กับเรามีรายได้แค่วันละร้อย ไม่พอสำหรับผม เพราะคู่แข่งเยอะ  เลยไปเช่าแผงกลางคืนต่อครับ  ขาย ห้าทุ่ม ถึงหกโมงเช้า ค่าเช่า 40 ค่าไฟ 20  รวม 60 บาท  ยอมเหนื่อยครับ เพื่อสำรวจตลาด  มันเป็นตลาดโต้รุ่งเล็กๆ ส่วนมากขายของมือสองกัน  แต่มีผมขายกิฟ เครื่องประดับผู้หญิง ประมาณ 2-3 ร้าน  ถือว่าดีครับ มาถูกหลัก ขายได้ 500+ ทุกวัน หักแล้วได้ 200+ ถือว่าคุ้ม เพราะค่าใช้จ่ายน้อยกว่า   ผมขายสองรอบ ได้ยอดเงินพอๆกัน  แต่ค่าใช้จ่าย ต่งกันกว่า สองเท่าตัว  นั่นคือกำไรเน้นๆของเราล่ะครับ  ระยะหลังเลยขายแต่รอบดึก แล้ว หาทำอย่างอื่นเพิ่มเอา

ตลาดพวกนี้ มันขึ้นกับจังหวะครับ เราต้องลองผิดลองถูก  อีกอย่าง การมีของจำนวนน้อย จะขายยากนะครับ อาจจะต้องยอมลงทุน ลงของให้เยอะหน่อย ผมไปซื้อของสำเพ็งประมาณ 1-2 อาทิตย์ครั้ง แต่ละครั้ง ผมซื้อจำนวนชิ้นต่อแบบ ไม่เยอะมาก เพราะ เทรน ที่สำเพ็งเปลี่ยนค่อนข้างไว    พอขายไปนานๆ เราจะจับหลักได้เองครับ ว่าควรนำอะไรมาขาย เพราะลุกค้าจะบอกเราเอง  ลุกค้ามักจะมาถามเสมอๆๆ ว่า ไอ่นั่น ไอ่นี่ ไม่มีเหรอ เราก็จำไว้ ถ้าไปเจอก็หยิบติดมาสัก 10 อันไม่เสียหาย  แต่ทุนต้องสูงหน่อย เพราะมันขายหลายอย่าง   ไม่ก็ขายแต่กิฟท์อย่างที่คุณว่า  ก้อาจจะดีครับ มันสินค้าแบบเดียว คุมตลาดง่าย

กระแสช่วงนี้ที่มาแรงคือ แฟชั่นออกแนวเกาหลีครับ  กิฟท์เพชร วิบๆวับๆ จะขายดีหน่อย  แต่ร้านผมที่ขายดีสุด คือ ที่คาดผม กับผ้าคาดผมครับ  ของกลุ่มนี้ ผมเข้าไปซื้อ อย่างละ 100+ ต่อรอบ เอามาไม่เยอะนะครับ  ส่วนมากหยิบมาแค่ 1 อันต่อ 1 แบบครับ อาจมีหลายสีหมดแล้วหมดเลย   มี สองราคาที่ผมซื้อมา คือ 5 บาท กับ 10 บาท นี่เดินฝั่งตลาดกลางคืนนะครับ ต้องเดินหาหน่อย     ถ้าตลาดคุณไม่ใช่ระดับล่างจนเกินไป จะขายได้ราคาครับ  ของพวกนี้ ขายกันที่ 20 บาท ต่ออันขึ้นไป  ส่วนผมขายที่ 35-39  ต่อชิ้น  สามชิ้นร้อย   ผมขึ้นป้ายไว้ครับ   คอนเซปต์ร้านผม  ชิ้นละ 39 สาม ชิ้นร้อย
กับอีกร้านนึง แรกๆผมไปวื้อร้านนี้บ่อย  ร้าน giftzy ครับ ร้านจะอยู่ฝั่ง คิคูย่า เดินเข้าไปประมาณ 50 เมตรได้มั้งครับ ร้านใหญ่หน่อย จะมีผู้ชายหน้าตาดีๆๆ คอยเรียกลุกค้าหน้าร้าน พูดจาดี เชียวแหละ สังเกตง่ายๆ คนแน่นตลอด  ขายที่คาดผม ผ้าคาดผม ออกแนวเกาหลีหน่อย  ราคาส่งอยุ่ที่ 17 บาทครับ ส่วนมากนำมาขาย 59 ขึ้นไปครับ  ผมก็เอามาขาย 49-59  ลูกค้าจะบอกว่า ขายถูก  แต่ช่วงไหนของใกล้หมด ผมก็เอามาเซลครับ เอาไปไว้กับพวก 39 สามชิ้นร้อยครับ  อันนี้เป็นคอนเซป ที่ดีตัวหนึ่ง  เพราะลุกค้าหลายคนเลย เข้ามาก็ซื้อ 3 ชิ้น ร้อยนึง  เราได้แล้วนะครับ เซตละ 40-70 บาท  หลังๆมา ผมก็ แทบจะไม่ค่อยเอาของอย่างอื่นมาเท่าไหร่ ยกเว้นตอนลุกค้าสั่งครับ ลูกค้าประจำก็เยอะ  ถ้าเราอัธยาศัยดี พูดเพราะๆ เอาใจลูกค้าหน่อย ยิ้มแย้มเข้าไว้ เดี๋ยวลุกค้าก้ติดเองครับ ผู้หญิง เค้าซื้อง่ายนะครับ และชอบการเอาใจใส่   มีร้านนึงเคยมาตั้งขาขแข่งกับผม เอาของมาขายถูกกว่าอีก   เค้ายังสู้ไม่ได้เลยครับ ^ ^!

แต่กว่าผมจะติดตลาดก็ใช้เวลากว่า สามเดือนครับ ดังนั้นอย่าพึ่งท้อครับ ลองลุยดูสักตั้ง  ถ้าไม่เวอร์ค ค่อยหาที่ใหม่ครับ  ข้อดีของพวกนี้คือ มันไม่เสียนะครับ วันนี้ขายไม่ได้ เก็บไว้ขายพรุ่งนี้ได้
ถ้าเริ่มเก่า  เราก็เอามาเซลครับ 10บาท 20 บาท ขายหมดทุกที   อ้อแล้วถ้าของมันเริ่มน้อย ก็ซื้อมาเพิ่มครับ เอามาปนๆๆกัน เดี๋ยวของเก่ามันออกเอง   ที่ขายมาเป็นแบบนั้นนะ ของมันไล่รุ่นกันตลอด
ถ้าไม่หมด ค่อยเซล ถ้าชำรุดก็ซ่อมครับ ของสำเพ็งมันหลุดง่ายอยุ่ละ ซื้อปืนกาว กับ กาวยู้ฮู ติดร้านไว้เลยครับ ได้ใช้แน่นอน

 อ้อ แล้วอย่าขายถูกเกินไปนะครับ ตลาดนี้ มันมูลค่าสูงอยุ่แล้ว  ถ้าขายทั่วไป อยู่ที่ 200-300% ของต้นทุนครับ  เอาง่ายๆ อนุสาวรีย์ชัย  ยังขาย ราคา 200% เลยครับ   แบบทุน 10 ขาย 20  ครับ ไม่งั้นอยุ่ลำบาก  ราคาที่คุณตั้งก็โอเคแล้วล่ะ แต่ผมซื้อ 10 ขาย 30 อะ   กิฟท์ ผมไม่ซื้อแบบถูกมาขายนะ มันขายยาก   ผมซื้อแต่อันละ 15+ (ต่ออันนะครับ)มาขาย  ขาย 39 -199 ด้วยซ้ำ =.=  งานมันสวยกว่าครับ จริงๆ เคยซื้อโหลละ 70 มาแพคขาย ขายไม่ออกเลย = =

ถ้าลูกค้าคนทำงานเยอะๆๆ  อีกตัวนึงน่าขายครับ  กิฟท์เน็ต กลุ่มคนทำงานใช้อยุ่แล้ว  มีตั้งแต่อันละ 15 บาท ไปถึง  80 บาท  ผมเอามาขาย 35-150 ครับ ^ ^ ต้องหาร้านสวยๆหน่อยนะ ขายดีนะ เดือนนึงก็ 50-300 อัน ถ้าเจอแบบมาเป็นกลุ่ม บางที วันเดียว ได้ 40 อันก็มี วันนั้นกินข้าวอิ่ม

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

ของกิ๊ฟช็อป

สินค้าแนะนำ

1.ถุงเท้าลายการ์ตูน
เพียงราคาคู่ละ 10 บาท



2. โคมไฟ
เพียงราคาอันละ 150 บาท




3. พวงกุญแจคู่รัก
เพียงราคาคู่ละ 59 บาท



4. แม็กเย็บกระดาษ
เพียงราคาอันละ 39 บาท



5. ต่างหูแฟชั่น
เพียงราคาคู่ละ 20 บาท



6. กำไรแขน
เพียงราคาชิ้นละ 39 บาท



7. ที่ใส่ดินสอ&ปากกา
เพียงราคาชิ้นละ 29 บาท



8. กระเป๋าแฟชั้น
เพียงราคาชิ้นละ 160 บาท



9. น้ำยาทาเล็บ
เพียงขวดละ 39 บาท



10. กบเหลาดินสอนกฮูก
เพียงอันละ 19 บาท